วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ปรัชญาการศึกษา

แบบฝึกหัดที่ 2

1. การจัดการศึกษาที่ไม่มีปรัชญาเป็นแนวทางท่านเห็นด้วยหรือไม่อย่างไรจงอธิบาย

    ตอบ ไม่เห็นด้วย เพราะการศึกษาที่ไม่มีปรัชญาก็เปรียบเสมือนการปลูกต้นไม้แต่ไม่รดน้ำ ซึ่งอาจจะเกิดผลไม่ได้ตามที่คาดหวัง หรืออาจจะไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
2. ปรัชญากับการศึกษาท่านคิดว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างไรจงอธิบาย
    ตอบ  มีความสัมพันธ์ คือ ปรัชญา คือความรู้หรือองค์ความรู้ที่เป็นความจริงและหากมีการใช้ปรัชญาเป็นแนวทางการศึกษา จะส่งผลให้การศึกษามีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้น
3. จงวิเคราะห์การจัดการศึกษาของโรงเรียนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวกับหลักสูตรการจัดเรียนการสอนและการบริการทางการศึกษาว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่ดำเนินการตามแนวคิดการศึกษาของปรัชญาจิตนิยมวัตถุนิยมประสบการณ์นิยมอัตภาวนิยม
    ตอบ  ปรัชญาจิตนิยม เรื่อง การจัดกิจกรรมทางด้านดนตรีให้ผู้เรียน  ปรัชญาวัตถุนิยม เรื่องจัดให้ผู้เรียนเรียนรู้และคุ้นเคยกับสรรพสิ่งธรรมชาติส่งเสริมให้ผู้เรียนเข้าถึงธรรมชาติของสิ่งแวดล้อมโดยจัดกิจกรรมอาศัยกฎธรรมชาติเป็นหลักประสบการณ์นิยมเรื่อง การที่โรงเรียนเน้นสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อผู้เรียนอัตภาวนิยม เรื่อง การให้ผู้เรียนเลือกกิจกรรมชุมนุมตามอิสระ
4. จงบอกหลักการของปรัชญากลุ่มอนุรักษ์นิยมคือสารัตถนิยมและนิรันตรนิยมเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร                                                                                                                                                                      
    ตอบ  เหมือนกันคือ เชื่อว่าหลักการยอมถูกต้องเสมอเชื่อในคุณงามความดีอันสูงสุดที่ไม่เปลี่ยนแปลง
5. จงบอกหลักการของปรัชญากลุ่มกลุ่มเสรีนิยม (liber view) คือพิพัฒนาการนิยม (progressive)และปฏิรูปนิยม (reconstructionism) เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
    ตอบ  ต่างกัน คือ พิพัฒนาการนิยมมุ่งพัฒนาบุคลิกภาพของเด็กด้านร่างกายอารมณ์ สังคม และสติปัญญาของเด็กปฏิรูปนิยมการเรียนรู้ที่มีค่าต่อเมื่อได้ลงมือปฏิบัติจริงในชีวิตจริงของผู้เรียน
6. จงอธิบายว่าความดีความงามเป็นสิ่งที่วัดได้หรือไม่จงอธิบาย
    ตอบ วัดได้ คือ ความดีงามเป็นสิ่งที่สามารถวัดได้จากการกระทำของแต่ละบุคคล
7. จงเขียนเรียงความเรื่องโลกทัศน์ของข้าพเจ้าที่มีต่ออาชีพครู
    ตอบ สำหรับดิฉันอาชีพครู เป็นทั้งผู้สร้างคน ผู้ถ่ายทอดความรู้ ผู้ปลูกจิตสำนึก ตลอดจนผู้ที่พัฒนาต้นกล้าเล็กๆให้เติบโตได้ เพราะครูเปรียบเสมือนแม่คนที่สองของผู้เรียน ซึ่งสำหรับดิฉันการเป็นครูนี้ไม่เพียงแต่จะมีใจรักในอาชีพเท่านั้น แต่ยังต้องสามารถอุทิศตนให้แก่การเรียนการสอน หรือแก่นักเรียนได้ การที่ดิฉันเลือกที่จะศึกษาในคณะครุศาสตร์ เพราะดิฉันเป็นคนที่รักเด็ก ชอบถ่ายทอดความรู้ให้แก่เพื่อนๆ และน้องๆ และเหตผลสำคัญๆ คือดิฉันอยากจะพัฒนาโรงเรียนในชนบทให้มีความเท่าเทียมกับโรงเรียนเมือง เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางด้านความรู้ต่างๆของนักเรียน และอาชีพนี้เป็นอาชีพที่มั่นคง สำหรับตัวดิฉันการที่ดิฉันมาเรียนที่นี้ ดิฉันจะตั้งใจเรียน และจะใฝ่หาความรู้และประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด เพื่อในอนาคตดิฉันจะสามารถนำความรู้ที่ได้ไปถ่ายทอดให้ลูกศิษย์ได้ และสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่นักเรียนได้
8. ท่านคิดว่าปรัชญาตะวันตกที่เหมาะสมใช้เป็นแนวทางการจัดการศึกษาของไทยมากที่สุดจงอธิบาย                               ตอบ ปรัชญาปฏิรูปนิยม เพราะว่าเป็นปรัชญาที่มุ่งไปสู่การปฏิบัติและการพัฒนาส่งเสริมให้โรงเรียนมีบทบาทในการปฏิรูปสังคมเพื่อใช้การศึกษาเป็นปัจจัยในการสร้างสังคมใหม่ให้มีความเสมอภาคและมีความเป็นธรรม
9. ท่านคิดว่าพุทธปรัชญาจะมาพัฒนาการศึกษาของไทยได้หรือไม่จงอธิบาย                                                                     ตอบ  พัฒนาได้เพราะ พุทธปรัชญาจะช่วยสอนในเรื่องของการเตือนสติ รู้จักคิด รู้จักวิเคราะห์ และรู้จักผิดชอบชั่วดี ช่วยขัดเกลาจิตใจ และทำให้การศึกษาของไทยเกิดการพัฒนาขึ้นได้
10. ท่านคิดว่าปรัชญาที่จัดการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญจงบอกชื่อและอธิบายการจัดการสอนที่ยึดเป็นผู้เรียนเป็นสำคัญมีวิธีการจัดอย่างไรอธิบายยกตัวอย่าง
      ตอบ  ปรัชญาปฏิรูปนิยม (reconstructionism) เชื่อว่าการเรียนรู้ที่มีค่าต่อเมื่อได้ลงมือปฏิบัติจริงในชีวิตจริงของผู้เรียนส่วนการจัดการเรียนการสอนหลักการเชื่อว่า หนทางปฏิรูปเพื่อสร้างวัฒนธรรมใหม่”(reconstructive road to culture) ยึดถือการศึกษาเพื่อปฏิรูปสังคม เป็นสำคัญ

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการศึกษา

แบบฝึกหัด
1. จงประมวลความหมายของคําว่า การศึกษา” 5 นิยาม
     ตอบ  นิยามที่ 1  ความหมายของคําว่า การศึกษา” ตามรากศัพท์เดิม ตรงกับคําภาษาอังกฤษคือ “Education” มีรากศัพท์มาจากภาษาลาติน 3 คําคือ“Educere” หมายถึง “to bring up” หรือ “to nourish” แปลว่า การเลี้ยงดู ดังนั้น การศึกษา หมายถึง การได้รับการเลี้ยงดูทําให้เกิดความเจริญเติบโต สําหรับคําว่า  “Educare” ความหมายถึง “to lead out” หรือ “to draw” แปลวา ชักนํา ดึงออกมา หมายถึงนําสิ่งที่มีอยูในตัวผู้เรียนให้ปรากฏออกมา  และคําว่า  “Educatum” หมายถึง “teaching” หรือ “training” แปลว่า  การสอนหรือ การฝึกอบรม และความหมายจากคําหลังนี้เป็นที่นิยมใช้กันมากทําให้เกิดความรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
               นิยามที่ 2  พลาโต นักปรัชญาชาวกรีก ได้กล่าวว่า การศึกษา หมายถึง การที่เราสามารถทำให้ผู้เรียนรู้สึกมีความสุขหรือเป็นทุกข์ได้
                นิยามที่ 3   สปินด์เลอร์ นักมนุษยวิทยา กล่าวว่า การศึกษา หมายถึง กระบวนการถ่ายทอดวัฒนธรรม ซึ่งเป็นการมุ่งเน้นให้แต่ละคนมีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นในทุกๆด้าน
                นิยามที่ 4  จอห์น ดิวอี้  กล่าวว่า การศึกษาคือ กระบวนการทำให้ผู้เรียนเกิดความเจริญงอกงาม ทำให้เกิดการจัดประสบการณ์และเกิดกระบวนการทางสังคม
                นิยามที่ 5  พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้ให้ความหมายคําว่า การศึกษา ว่า กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคมโดยการถ่ายทอดความรู้ การฝึก การอบรม การสืบสานทางวัฒนธรรม การสร้างสรรค์จรรโลงความก้าวหน้าทางวิชาการ สร้างองค์ความรู้ การเรียนรู้และปัจจัยเกื้อหนุนให้บุคคลเรียนรู้อยางต่อเนื่องตลอดชีวิต
2. คําว่า การศึกษา คือ กระบวนการเรียนรู้ ท่านเห็นด้วยหรือไม่ อย่างไร จงอธิบาย
     ตอบ  เห็นด้วย เพราะ การศึกษาทำให้มีการค้นคว้า มีการเพิ่มพูนความรู้ ประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน และทำให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ขึ้น อย่างเป็นระบบ
3. ในฐานะที่ท่านเป็นนักศึกษาวิชาชีพครู จงให้นิยามการศึกษาตามคิดเห็นของท่าน
     ตอบ การศึกษา คือ การพัฒนาบุคลิกภาพของผู้เรียน ให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ โดยการถ่ายทอดความรู้ การฝึกอบรม ตลอดจนการสร้างความจรรโลงใจให้แก่นักเรียน
4. ความมุ่งหมายทั่วไปและความมุ่งหมายเฉพาะเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
     ตอบ  แตกต่างกัน เพราะ ความมุ่งหมายทั่วไปจะกล่าวอย่างกว้างๆ ครอบคลุมในหลายๆ ด้าน แต่ความมุ่งหมายเฉพาะ เป็นความมุ่งหมายที่จะกล่าวเฉพาะเรื่อง ไม่ได้กล่าวครอบคลุม
5. ความมุ่งหมายคืออะไร ความมุ่งหมายการศึกษาระดับชาติ ความมุ่งหมายการศึกษา แต่ละระดับ ความมุ่งหมายระดับหลักสูตร และความมุ่งหมายระดับหมวด และความมุ่งหมายระดับการสอน มีความสัมพันธ์หรือแตกต่างกันอย่างไร
     ตอบ  ความมุ่งหมาย คือ แนวคิดหรือปรัชญาที่บุคคลกำหนดไว้ล่วงหน้า ในการทำกิจกรรมใดๆ โดยมีการวางแผนสำหรับเป็นแนวปฏิบัติเพื่อให้ลุล่วงและเกิดวัตถุประสงค์ ดังนั้นความมุ่งหมายทุกระดับจึงต้องสอดคล้องสัมพันธ์กันเพื่อจะได้บรรลุผลลัพธ์และถูกต้องตามวัตถุประสงค์
6. องค์ประกอบที่ใช้กำหนดความมุ่งหมายของการศึกษามีอะไรบ้าง จงอธิบาย
     ตอบ องค์ประกอบที่ใช้ในการกำหนดความมุ่งหมายของการศึกษา มีประเด็นสรุปได้ดังนี้
1) ปรัชญาการศึกษา เป็นแนวทางที่กำหนดตามความมุ่งหมาย และกำหนดทิศทาง ให้การศึกษาดําเนินการไปในแนวทางของปรัชญานี้
2 )จิตวิทยาการศึกษา คํานึงถึงผู้เรียนเกี่ยวกับผู้เรียน กระบวนการเรียน การแนะแนว การกำหนดความมุ่งหมายของการศึกษานําไปสู่พัฒนาการของผู้เรียน วิธีวัดคุณค่า เพื่อกาหนดความมุ่งหมายให้สอดคล้องกับความต้องการดังกล่าว
3) การจัดการศึกษาเพื่อตอบสนองความต้องการของสังคม สืบสานวัฒนธรรม ปกครองระบอบประชาธิปไตย ความมุ่งหมายของการศึกษาเพื่อให้บุคคลสามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม และการดําเนินชีวิตของตนเองให้เข้ากับสภาพสังคมปัจจุบัน ซึ่งความมุ่งหมายจะต้องนําแนวคิดเหล่านี้ มากำหนดเป็นความมุ่งหมายไว้ได้ดังกล่าว
4) บริบทของชุมชน รวมทั้งฐานะทางเศรษฐกิจของคนใน แหล่งวิทยากรของคนในชุมชน ซึ่งการดําเนินการศึกษา อาศัยคนในชุมชน แหล่งเรียนรู้ ทรัพยากรในท้องถิ่น ความมุ่งหมายจําเป็นต้องนําสิ่งที่กล่าวถึงมากำหนดเป็นความมุ่งหมายของการศึกษา
5) ต่างประเทศที่มีความสัมพันธ์กันเป็นวิธีที่ทําให้ทราบว่า การจัดการศึกษาของประเทศต่าง ๆ มีผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศเรา เช่น การเปิดเสรี สมาคมอาเซียน จะมีผลกระทบต่อการศึกษาเราจําเป็นต้องวิเคราะห์สภาพสังคมบริบทของเราและของประเทศในกลุ่มสมาคมอาเซียน แล้วนํามากำหนดเป็นจุดมุ่งหมายให้สอดคล้องกัน  
6) เทคโนโลยี เป็นผลทําให้การจัดการศึกษาสะดวกและเป็นไปอย่างรวดเร็ว เปิด โลกการติดต่อสื่อสารได้ทุกมุมของโลก จะต้องนําหลักการทางวิทยาศาสตร์มาประดิษฐ์เป็นเครื่องมือ เครื่องใช้วัสดุอุปกรณ์การสอนหลากหลาย การกำหนดเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาประกอบ กับความสะดวกรวดเร็วทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน
 7. ทําไมการจัดการศึกษาไทยสมัยต่าง ๆ จึงต้องกำหนดความมุ่งหมายการศึกษา ที่จะบ่งบอกความเป็นมาของการศึกษาไทยได้หรือไม่อยางไร จงอธิบาย   
     ตอบ การศึกษาของคนไทยตั้งแต่สุโขทัยจนมาถึงปัจจุบัน  มีเป้าหมายที่จะพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ในทุกๆด้านทั้งความรู้ ความสามารถ มีคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงาม ปลุกใจให้รักชาติ ให้มีความสามัคคีปรองดอง สาเหตุที่ทำให้ต้องมีการกำหนดความมุ่งหมายการศึกษาในสมัยต่างๆ คือการกำหนดความมุ่งหมายการศึกษา นั้นต้องอาศัยบริบทของชุมชน  ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ  และความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี  และจะมีความแตกต่างกันไปตามสภาพของสังคม ซึ่งจากการกำหนดจุดมุ่งหมายของการศึกษาในสมัยต่างๆ สามารถบ่งบอกถึงความเป็นมาและสภาพการของสังคมของไทยตั้งอดีตมาจนถึงปัจจุบันได้ว่าเป็นมาอย่างไร
8. ในฐานะท่านเป็นนักศึกษาวิชาชีพครู ท่านคิดว่าการศึกษามีความสําคัญต่อประเทศอย่างไร จงอธิบาย
     ตอบ  มีความสำคัญมาก เพราะ การศึกษาเป็นการพัฒนาองค์ความรู้ ความเข้าใจ ให้แต่ละบุคคล ซึ่งแต่ละบุคคลจะสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์และสามารถพัฒนาประเทศได้
 9. แนวคิดพุทธทาสภิกขุ ได้กล่าวว่า การศึกษาเพื่อมนุษย์จะมีโอกาสได้สิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่มนุษย์ควรจะได้โดยการทําลายซึ่งสัญชาตญาณอย่างสัตว์ แล้วมีการประพฤติกระทําอย่างมนุษย์ที่ มีจิตใจสูงโดยสมบูรณ์ และสิ่งที่ดีที่สุดตามหลักศาสนาพุทธที่ว่า กินอยู่อย่างพอดี อย่ากินส่วนเกินอย่าใช้ส่วนเกินเพื่อจะให้เป็นไปได้อะไรอีกอันหนึ่งซึ่งสูงสุดเรียกว่า บรมธรรม” และการศึกษา เพื่อธรรมาธิปไตยและเป็นเรื่องคนมีปัญญา ต้องมีปัญญาแท้จริงสูงสุด เห็นด้วยหรือไม่อย่างไร
     ตอบ  เห็นด้วย เพราะ การศึกษาจะทำให้เกิดกระบวนการพัฒนาในด้านต่างๆ ซึ่งคนที่จะมีปัญญาได้นั้นควรจะผ่านการฝึกฝนทางด้านต่างๆ เพื่อนำมาพัฒนาตนเอง
 10. แนวคิดของนักการศึกษาไทยที่ท่านชอบมากที่สุด 1 ท่าน แสดงทัศนะของท่านต่อแนวความคิดการจัดการศึกษาของไทย
     ตอบ พนม พงษ์ไพบูลย์ กล่าวว่า การศึกษามีความสำคัญ 3 ประเด็น คือ 1)สร้างคนดีให้แก่สังคม 2)กระบวนการทำให้คนฉลาด 3)ทำให้คนนำความรู้ไปใช้ประกอบอาชีพได้ ซึ่งตามทัศนะก็จะกล่าวได้ว่า 1)การศึกษาคือการสร้างคนดีให้แก่สังคม ก็คือ การศึกษาสามารถขัดเกลาจิตใจของคนได้ เช่น เมื่อเราได้รับการศึกษาเราก็จะเกิดความรู้สึกผิดชอบชั่วดีขึ้นได้ 2)การศึกษาทำให้คนฉลาดได้ คือ ตลอดจนการศึกษผู้ที่ศึกษาจะได้รับการฝึก อบรม การพัฒนาตนเองในด้านต่างๆซึ่งกระบวนการในการศึกษานั้นจะทำให้ผู้ที่ศึกษาเกิดการพัฒนาสติปัญญาไปในระดับที่สูงขึ้นได้ 3)การศึกษาทำให้คนนำความรู้ไปใช้ประกอบอาชีพได้ คือ เมื่อเราศึกษาแล้วเกิดกระบวนการเรียนรู้ทำให้แต่ละบุคคลสามารถนำความรู้เหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพ

วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เล่าเรื่องตัวเองพอสังเขป

ให้นักศึกษาเล่าเรื่องตนเองพอสังเขป ดังนี้
1. ปรัชญาชีวิต
     ปรัชญาชีวิตของข้าพเจ้า คือ สายน้ำไม่มีวันไหลย้อนกลับ
2.การศึกษา
     ข้าพเจ้าจบการศึกษา มาจากโรงเรียนท่าศาลาประสิทธิ์ศึกษา
3.ทำไมจึงอยากเรียนครู
     เหตผลที่ข้าพเจ้าอยากเรียนครู เพราะข้าพเจ้าเป็นคนที่ชอบถ่ายทอดความรู้ให้แก่บุคคลอื่น และข้าพเจ้าอยากจะไปสอนให้นักเรียนในโรงเรียนแถบทุรกันดาร ให้มีความรู้ทัดเทียมกับบุคคลอื่นๆ
4.สิ่งที่อยากทำในอนาคต
     สิ่งที่ข้าพเจ้าอยากทำในอนาคต คือ ข้าพเจ้าอยากเรียนจบในระยะเวลา 5 ปี และมีงานทำ สามารถเลี้ยงตัวข้าพเจ้าเองได้ และสามารถดูแลพ่อแม่ได้
5.สิ่งที่ชอบ และไม่ชอบ
     สิ่งที่ชอบ คือ รอยยิ้ม ความจริงใจ และการมีสัมพันธ์ภาพที่ดีกับผู้อื่น
     สิ่งที่ไม่ชอบ คือ การโกหก ความกดดัน และการพูดคำหยาบ และสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำต่างๆ